Pneumatic conveying มีความทนทาน ประสิทธิภาพสูง และสามารถใช้งานได้ 24 ชั่วโมง

Pneumatic conveying

Pneumatic conveying จะเป็นการถนอมสินค้าและทำให้ผู้ผลิตประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากความเสียหายระหว่างการขนถ่ายสินค้า Pneumatic conveying มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดลม สามารถลำเลียงได้ทั้งวัสดุที่เป็นผงและเม็ด เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ใช้ดูดลำเลียงของได้ทุกชนิด ตั้งแต่ผงละเอียด หยาบ เกล็ด ก้อน เม็ด และของเหลว เช่น ลำเลียงเม็ดพลาสติก ลำเลียงผงปรุงรส ลำเลียงน้ำตาล ลำเลียงแป้ง ลำเลียงผงยา ลำเลียงผงเคมี ลำเลียงเมล็ดกาแฟ เป็นต้น Pneumatic conveying ช่วยลดค่าใช้จ่ายการทำความสะอาดในการลำเลียง เพราะเป็นระบบปิด สามารถควบคุมการฟุ้งกระจายของวัสดุ ช่วยลดการปนเปื้อนขณะลำเลียง และใช้พื้นที่ในการติดตั้งไม่มาก แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ค่าใช้จ่ายในการลงทุนติดตั้งตอนเริ่มแรกและสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับการลำเลียงประเภทอื่น

Pneumatic conveying มีบทบาทสำคัญอย่างมากในวงการอุตสาหกรรมไทยของเรา

Pneumatic conveying เป็นทางเลือกที่เหมาะสมในเรื่องของการช่วยในเรื่องขนย้ายวัตถุดิบที่มีขนาดเล็กที่ยากต่อการขนย้าย โรงงานอุตสาหกรรมคงต้องหาวิธีและจัดการระบบการขนย้ายรวมทั้งการพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์ที่ช่วยในการขนย้ายวัสดุเข้ามาใช้ในองค์กร โดยไม่เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีศักยภาพต่ำกับปริมาณวัสดุ หรือสินค้าที่ต้องการขนส่งทำให้ไม่เกิดประสิทธิภาพในการขนย้าย หรือการเลือกอุปกรณ์ขนส่งที่ไม่เหมาะสมกับปริมาณงานทำให้สูญเสียต้นทุน เพราะการพิจารณาใช้อุปกรณ์ช่วยในการขนถ่ายวัสดุถือเป็นการลงทุนในอุปกรณ์การขนถ่ายวัสดุนั้นไม่ได้ช่วยเพิ่มค่า แก่สินค้าที่ผลิตแต่อย่างใด เพียงแต่การเลือกใช้อุปกรณ์การขนถ่ายวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยให้เกิดประโยชน์มากมาย เช่น เพิ่มความคล่องตัวและทำให้เกิดความต่อเนื่องในการผลิต ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อวัสดุในระหว่างขนถ่าย

Pneumatic conveying วิธีการที่จะประหยัดแรงงานและค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นต้นทุนหนึ่งของโรงงานอุตสาหกรรม

การจัดการระบบการขนถ่ายวัสดุถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในองค์กรการผลิต ถึงแม้ว่า การขนถ่ายวัสดุจะไม่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าก็ตาม แต่ก็มีผลต่อการบริการการผลิตของโรงงานได้เช่นกัน การจัดระบบการขนย้ายหรือการเคลื่อนย้าย วัสดุ วัตถุดิบ สินค้า ฯลฯ โรงงานอุตสาหกรรมจะต้องพิจารณาให้รอบคอบในการเลือกใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถลดปัญหาการหยุดกระบวนการผลิต การซ่อมบำรุง ลดต้นทุนในการผลิต และความสูญเสียในรูปแบบของพลังงานที่ใช้ระยะยาวของโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ภาพรวมซัพพลายเชนขององค์กรมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เนื่องจากการเคลื่อนย้ายวัสดุแต่ละครั้งสถานประกอบการต้องหาวิธีการลดจำนวนการเคลื่อนย้ายวัตถุต่าง ๆ ให้มากที่สุด เนื่องจากทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย จะมีต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนย้ายวัตถุต่าง ๆ ดังนั้นหากสามารถลดค่าใช้จ่ายในด้านนี้ก็จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อชิ้นลดลงด้วย